UFABETWINS เรื่องราวที่ถูกลืม เมื่อแอนฟิลด์เคยเป็นบ้านของแมนยู

UFABETWINS ครั้งหนึ่ง แอนฟิลด์ เคยเป็นสนามเหย้าของ เอฟเวอร์ตัน แล้วมีใครบ้างรู้ว่า แอนฟิลด์ ก็เคยถูกใช้เป็นบ้านของอีกหนึ่งทีมคู่อริ เพียงแต่มันไม่ได้เป็นที่น่าจดจำสักเท่าไหร่

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม ปี 1971 ทีมเจ้าถิ่นลงเดินสู่สนาม แอนฟิลด์ ภายใต้ชุดสีแดงพร้อมเสียงปรบมือดังสนั่นจากแฟนบอลที่สวมผ้าพันคอสีแดง-ขาวซึ่งยืนอยู่ฝั่ง สปิออน ค็อป

ฝั่งตรงข้ามคือ อาร์เซน่อล ที่ฤดูกาลก่อนหน้า เอาชนะทีมของ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ จนคว้าดับเบิล แชมป์ มาครองได้

อย่างไรก็ตาม ทีมเจ้าถิ่นในวันนั้น ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล แต่คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นและกลิ่นอายแห่งความไม่น่าจดจำ มันมีความลับอันดำมืดซุกซ่อนอยู่

สโมสรที่ได้แชมป์ลีกมากที่สุดของ อังกฤษ เคยเรียก แอนฟิลด์ ว่า”รังเหย้า” เหมือนที่ เอฟเวอร์ตัน คู่อริร่วมเมืองของ ลิเวอร์พูล เคยเรียกที่นี่ว่า”บ้าน” ในช่วงปลายทศวรรษ 1880s

ฤดูกาล 1971/72 แมนฯ ยูไนเต็ด โดนสั่งห้ามเล่นเกมเหย้า 2 นัดแรกในเมืองแมนเชสเตอร์ สาเหตุจากฮูลิแกนกลุ่มหนึ่งของตัวเองไปปามีดใส่แฟนบอลทีมเยือนในนัดสุดท้ายของซีซั่นก่อนหน้า ซึ่งทำให้ เกมเหย้า 2 นัดแรกของซีซั่นถัดมา ยูไนเต็ด จึงต้องไปเล่นที่ แอนฟิลด์ กับ วิคตอเรีย กราวน์ บ้านของ สโต๊ค แทน

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้คนไม่ได้ให้ความสนใจกันมากนัก ถึงขนาดว่านักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด บางคนที่ลงเล่นเกมวันนั้น ยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่า ยูไนเต็ด เคยใช้ แอนฟิลด์ เป็นรังเหย้ามาก่อน

เกมคู่นี้เริ่มเตะช้ากว่ากำหนด เมื่อมีแฟนบอลกว่าร้อยรายวิ่งลงมาในสนามเพื่อเปลี่ยนจากอัฒจันทร์ฝั่งหนึ่งไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง และดูเหมือนว่าแม้กระทั่งแฟนบอล ยูไนเต็ด เองก็อยากมีโอกาสยืนเชียร์อยู่ตรงอัฒจันทร์ฝั่ง เดอะ ค็อป บ้าง หลังจากรู้ว่าช่วงครึ่งแรกทีมรักจะบุกไปทางฝั่งนั้น

UFABETWINS

เกมครึ่งแรก แมนยู เล่นกันเอื่อยเฉื่อย พวกเขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ของ แฟร้งค์ โอ ฟาร์เรลล์ กุนซือคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาคุมแทน เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ที่บอกลาทีมไปช่วงเดือนมิถุนายน ปี 1971

  แมนยู ตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่นาทีที่ 4 จากผลงานของ แฟร้งค์ แม็คลินท็อค แต่ ยูไนเต็ด ก็กลับมาได้ในครึ่งหลังจากความยอดเยี่ยมของ จอร์จ เบสต์ ที่มีส่วนร่วมทำให้ทีมตีเสมอจากจังหวะที่ อลัน กาวลิ่ง ตักบอลข้ามตัว บ็อบ วิลสัน ผู้รักษาประตู อาร์เซน่อล เข้าประตู

ประตูนี้นับเป็นภาพหายากที่สุดในวงการฟุตบอลที่บรรดา เร้ด อาร์มี่ ร่วมฉลองในฐานะทีมเหย้าที่ แอนฟิลด์ ซึ่งมันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีและน่าจดจำ แต่สำหรับ กาวลิ่ง มันไม่ได้เป็นแบบนั้น…

 “ผมจำไม่ได้เลย เราเล่นกับใครนะ?” ดูเหมือน กาวลิ่ง จะนึกไม่ออก

  “ยูไนเต็ด เล่นเกมเหย้าที่ แอนฟิลด์ เหรอ? ให้มันผ่านไปเถอะ” 

มันแทบไม่น่าเชื่อที่เขาจะจำไม่ได้ แต่รูปถ่ายจากเกมวันนั้นเป็นหลักฐานให้เห็นว่า กาวลิ่ง กำลังกระโดดข้ามตัว วิลสัน เพื่อไปฉลองประตูของตัวเองที่ฝั่ง แอนฟิลด์ โร้ด เอนด์

วิลสัน จำไม่ได้ไม่เป็นไร งั้นลองถาม เดวิด แซดเลอร์ ผู้ที่บัญชาเกมรับ ยูไนเต็ด ดูบ้าง ว่าจะจำได้ไหม?

 “ผมเล่นด้วยเหรอ?” แซดเลอร์ ตอบแบบงงๆ

“ผมจำไม่ได้เลยนะ ลองไปถาม อเล็กซ์ สเตปนี่ย์(ผู้รักษาประตู) ดูสิ เขาน่าจะจำได้ เขาจำเกมแต่ละนัดได้ดีกว่าผม”

ช็อตสำคัญที่เป็นตัวแปรเปลี่ยนเกม คือจังหวะที่ สเต็ปนี่ย์ ปัดลูกยิงของ จอร์จ อาร์มสตรอง ปีกร่างเล็กของ เดอะ กันเนอร์ส ไปชนคานตรงฝั่ง ค็อป เอนด์  ช่วยให้สกอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ตกเป็นฝ่ายตามหลังอีกครั้ง แล้วจากนั้น บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กัปตันทีมของ แมนยู ทำประตูที่สองตรงหน้าอัฒจันทร์ฝั่ง แอนฟิลด์ โร้ด ด้วยลูกยิงฟรีคิกโค้งหนีกำแพง บอลพุ่งเสียบมุมซ้ายของประตู ขณะที่ ไบรอัน คิดด์ ก็มาทำประตูตอกย้ำชัยชนะให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายเกม

UFABETWINS

สเต็ปนี่ย์ จะมีความสุขที่ตัวเองเป็นผู้รักษาประตู แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเสียงเชียร์จาก สาวก ยูไนเต็ด ตรงฝั่ง เดอะ ค็อป รึเปล่า?

  “ผมพอจำได้คร่าวๆ ว่าเราอดใช้ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นสนามเหย้า 2 นัด แต่ผมจำเกมนี้ไม่ได้เลยจริงๆ” สเต็ปนี่ย์ ที่ลงเล่นให้ ยูไนเต็ด มากกว่า 400 นัด ระบุ 

  “ผมเคยนึกว่าตัวเองชนะที่ แอนฟิลด์ แค่ครั้งเดียว ในเกมที่เราชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 (เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 1969) ถ้าอย่างนั้นตอนนี้มันก็กลายเป็นว่าผมชนะที่นั่น 2 นัดแล้วสินะ” 

“เกมเดียวที่ผมจำได้ว่าเราต้องไปเล่นเกมเหย้าที่สนามอื่นคือเกมที่เราต้องไปเตะที่ พลีมัธ (เป็นเกม คัพ วินเนอร์ส คัพ  นัดสอง ที่เจอกับ แซงต์-เอเตียน โดยตอนนั้น ยูฟ่า สั่งห้าม แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นสนามที่อยู่ภายในระยะ 200 กิโลเมตรจากเมืองแมนเชสเตอร์ เพราะแฟนบอลของทีมไปก่อความวุ่นวายถึง ประเทศฝรั่งเศส ในนัดแรกที่บุกไปเสมอกับ แซงต์-เอเตียน 1-1 ในปี 1977)”

บางทีเรื่องที่จำไม่ได้อาจเป็นแผลในใจเพื่อปกปิดบาดแผลไม่ให้เลือดมันไหลออกมา

แม้ผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด 3 คนดังกล่าว ไม่สามารถจำรายละเอียดเกมนั้นได้ แต่คนหนึ่งที่จำได้แม่นยำจนสามารถเล่าย้อนถึงความหลังนี้ได้ คือ จอร์จ เซพตัน โฆษกประจำสนาม แอนฟิลด์ เจ้าของฉายา “เสียงแห่ง แอนฟิลด์”

เกมนี้เกิดขึ้นหลังจาก เซพตัน เริ่มงานโฆษกที่ แอนฟิลด์ ได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

 “ผมยังจำภาพในวันนั้นได้ดี วันนั้นสนามมันว่างถึงครึ่งหนึ่งเลย”

“มันน่ากลัวมากๆ ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มทำงาน มันเป็นเกมที่เตะกันเป็นกรณีพิเศษ ลงเล่นกันในคืนวันศุกร์ ซึ่งผมก็คิดว่ามันคงจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้วันนั้นคนไม่เยอะเท่าไหร่” เซพตัน เปิดใจ

You’ll Never Walk Alone คือบทเพลงประจำสโมสรลิเวอร์พูล แน่นอนว่านักเตะ ยูไนเต็ด คงไม่ได้เดินลงสนามแอนฟิลด์ พร้อมกับเพลงนี้แน่

 “มันเป็นเพียงเกมที่สามในการทำงานของผมเท่านั้นเอง” 

  “ผมคงไม่สาบานต่อคัมภีร์ไบเบิลได้หรอกแต่ผมแน่ใจได้เลยว่าผมไม่ได้เปิดเพลง -You’ll Never Walk Alone- ในเกมนั้น มันเป็นเพลงของพวกเราตั้งแต่ปี 1963 เลยนะ!”

  “มันแปลกประหลาดทีเดียว เพราะ แอนฟิลด์ เป็นสนามกลาง แต่จากมุมมองของผม ผมก็มีความสุขที่ได้มีเงินพิเศษเข้ากระเป๋า เนื่องจากตอนนั้นผมยังเด็ก เพิ่งแต่งงาน และกำลังเก็บเงินเพื่อสร้างบ้าน”

 “ผมจำไม่ได้หรอกว่าคืนนั้นมันมีปัญหาอะไร ความเป็นศัตรูกับ ยูไนเต็ด ในช่วงนั้นมันไม่รุนแรงเท่าตอนนี้ มันจึงเป็นเรื่องดีที่จะเปิดใจและดูเกมที่คุณไม่ได้แคร์ถึงเรื่องผลการแข่งขัน”

  “หากมันเกิดขึ้นในตอนนี้ล่ะก็ ผมจะส่งเสียงเชียร์ อาร์เซน่อล แต่ทุกวันนี้ก็คงจะเล่นแบบไม่มีคนดูแทนแหละ”

การตัดสินใจของ เอฟเอ ที่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นที่ แอนฟิลด์ หลังเกิดปัญหาเรื่องฮูลิแกน ถ้าเป็นสมัยนี้อาจเป็นเรื่องที่ดูโหดร้าย อย่างไรก็ตาม สมัยนั้นปัญหาฮูลิแกนมันเกิดขึ้นหลายต่อหลายเกม และก็เหมือนกับที่ ปีเตอร์ โรบินสัน อดีตเลขาธิการของ ลิเวอร์พูล เคยอธิบายไว้เมื่อปี 2009 ว่าตอนนั้นความเป็นคู่อริกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้รุนแรงเหมือนอย่างในทุกวันนี้

  “ตอนที่ผมเริ่มทำงานกับ ลิเวอร์พูล ตอนยุค 1960s อริตัวฉกาจที่สุดคือ เอฟเวอร์ตัน” อดีตเลขาธิการของ ลิเวอร์พูล เผย

“ความเป็นอริมันเปลี่ยนไป เริ่มกลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตอนที่พวกเขาเริ่มเก่งขึ้นมา แต่ก่อนหน้านั้น ผมจำได้ว่าพวกเขาตกชั้น(ปี 1974) และเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมจำได้อีกว่า แฟนบอลยูไนเต็ด อยู่ตรงฝั่ง เดอะ ค็อป มันคงไม่เกิดขึ้นอีกใช่ไหม? “

อย่างไรก็ดี ความบาดหมางกันระหว่างกลุ่มแฟนบอลอันธพาลระดับฮูลิแกนยังถือว่ารุนแรงอยู่ แม้ว่าตอนนั้นแฟนบอลแก่นแท้ของทั้งสองทีมไม่ได้มีนิสัยรุนแรงและเกลียดชังกันอย่างหนักก็ตาม

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ที่ แอนฟิลด์ เดอะ การ์เดี้ยน ขึ้นพาดหัวข่าวหน้า 1 ด้วยประเด็นเชิงหดหู่เหมือนที่เคยทำเป็นปกติ โดยปัญหามีดังต่อไปนี้

  มีแฟนบอลราว 100 คนโดนขับออกจาก แอนฟิลด์

มีคนทำกระจกบ้านบางหลังแถว แอนฟิลด์ แตก

และมีคน 600 คนที่โดนควบคุมตัว จากการที่พวกเขาปาอิฐใส่กองเชียร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นถูกบีบให้เดินกลับไปที่สถานี ไลม์ สตรีท เพื่อขึ้นรถไฟกลับเมืองแมนเชสเตอร์

รายงานเรื่องเกมการแข่งขันของ เอริค ท็อดด์ เหยี่ยวข่าว เดอะ การ์เดี้ยน แสดงถึงความหงุดหงิดกับพฤติกรรมของแฟนบอลฝั่ง เดอะ ค็อป รวมถึงปัญหาของวงการฟุตบอลที่พบได้บ่อยๆ ในช่วงทศวรรษ 1970s

“เป็นอีกครั้งที่แฟนบอลบางคนเป็นเหมือนตัวร้ายของเรื่อง ไม่ว่าพวกเขาจะมีพื้นเพมาจากไหนก็ตาม” นักข่าวของ เดอะ การ์เดี้ยน ระบุ

  “และพวกจิตแพทย์ ไม่ว่าจะทั้งระดับสมัครเล่นหรือมืออาชีพที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการพยายามอธิบายเรื่องจิตใจของคนในวงการฟุตบอล ก็คงจะมีเรื่องให้พูดถึงอย่างสนุกสนานจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน แน่นอนว่าคำที่ผมใช้ไป มันเป็นคำที่ค่อนข้างไม่ดีเท่าไหร่”

  “ทันทีที่ทั้ง 2 ทีม(แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล) เดินทางมาถึงสนาม เดอะ ค็อป บางส่วนก็ร้องเพลงที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่เกี่ยวกับแฟนบอลทั้ง 2 เพศที่วิ่งไปตามพื้นที่ของสนามตรงฝั่งที่นักเตะ ยูไนเต็ด อบอุ่นร่างกายกันอยู่”

UFABETWINS

  “ถึงแม้ว่าตำรวจจะมีกำลังพลน้อยกว่า แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการไล่จับแฟนบอลนิสัยแย่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับไล่พวกนั้นออกจากสนาม พอคนนอก(หมายถึงแฟนบอล ลิเวอร์พูล) รู้ว่า แฟนบอลยูไนเต็ด จะเล่นงานอัฒจันทร์ฝั่ง ค็อป เอนด์ พวกเขาก็กลับเข้ามาในสนาม และทำให้เกิดความสูญเสียมากกว่าเดิม”

อย่างไรก็ตาม “ปีศาจแดง” ได้รับผลกระทบด้านการเงินจากการมาใช้ แอนฟิลด์ อยู่เล็กๆ เหมือนกัน เพราะสมัยนั้นค่าตั๋วของเกมลีกต้องแบ่งกันแบบ 50 เปอร์เซ็นต์

เมื่อต้องหารค่าตั๋วแบบ 50-50 และจากการที่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมที่ แอนฟิลด์ แค่ 27,649 คน อาร์เซน่อล จึงใช้สิทธิที่ตัวเองเสียประโยชน์จากการที่แฟนบอลน้อยลงจากเกมที่ทั้ง 2 ทีมเจอกันที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปีก่อนหน้านั้นที่ 48,000 คน ทำให้ เอฟเอ สั่งให้ “ปีศาจแดง” จ่ายค่าชดเชยส่วนต่างให้กับ “ปืนใหญ่” แถมยังต้องยกเงิน 15% ของค่าตั๋วทั้งหมดให้ ลิเวอร์พูล อีกต่างหาก

มีการเปรียบเทียบว่าขนาด เอฟเวอร์ตัน ยังจะได้กำไรเลย ถ้าผู้ชมที่สนาม กูดิสัน พาร์ค นัดเจอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในวันต่อมามีคนดูไม่ถึง 46,000 คน

  “You can stop whispering now. The secret is out”

“ตอนนี้คุณสามารถเลิกพูดเรื่องดังกล่าวแบบเบาๆ ประหนึ่งว่ากลัวจะโดนคนตอกกลับว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงได้แล้ว เพราะความลับนั้นถูกเปิดเผยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

เดอะ การ์เดี้ยน ทิ้งทายไว้แบบนี้…

 

คลิกเลย >>>  UFABETWINS

คลิกเลย >>>  https://www.projectunifyoregon.com/