UFABETWINS

UFABETWINS ‘เลวานดอฟสกี้’ คู่ควร’บัลลงดอร์’

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ของ บาเยิร์น มิวนิค ทำผลงานยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนคู่ควรกับการคว้ารางวัล ‘บัลลง ดอร์’ ประจำปีนี้ไม่น้อยไปกว่า ลิโอเนล เมสซี่ หรือ จอร์จินโญ่

‘บัลลง ดอร์’ กลับมาอีกครั้งในปี 2021 หลังยุติการมอบรางวัลอันทรงเกียรติในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ‘โควิด-19’ ซึ่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็น 1 ใน 30 รายชื่อที่มีโอกาสคว้ารางวัลดังกล่าวในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้

เลวานดอฟสกี้ ควรคู่กับรางวัล ‘บัลลง ดอร์’ เมื่อปีก่อนจากการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ บาเยิร์น มิวนิค โดยนำต้นสังกัดกวาดแชมป์ทุกรายการ ขณะเดียวกันหัวหอกชาวโปลยังคว้ารางวัล ‘รองเท้าทองคำ’ หรือ ดาวซัลโวสโมสรยุโรป หลังกด 41 ประตูบนเวทีลีกากลายเป็นสถิติใหม่ของลีกเมืองเบียร์ทำลายผลงานเดิมของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานกองหน้าทีมเสือใต้ที่เคยยิง 40 ประตูในฤดูกาล 1971-1972

น่าเสียดายที่ไม่มีการมอบรางวัล ‘บัลลง ดอร์’ เมื่อปีที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างไร เลวานดอฟสกี้ ยังคู่ควรกับรางวัลอันทรงเกียรติในปีนี้ไม่ต่างจากเดิม แม้ว่าจะมีคู่แข่งสำคัญอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, จอร์จินโญ่ หรือ คาริม เบนเซม่า ก็ตาม

ทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับ เลวานดอฟสกี้ หลายคนร่วมสนับสนุน เลวานดอฟสกี้ คว้ารางวัลดังกล่าวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

‘เขามีความสม่ำเสมออย่างไม่น่าเชื่อในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาไม่เหมือนใคร’ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวถึงหัวหอกทีมชาติโปแลนด์

ขณะที่ โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอคนปัจจุบันของทีมดังแคว้นบาวาเรียกล่าวยกย่องหัวหอกวัย 33 ปีว่า ‘เลวานดอฟสกี้ ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับกองหน้าทั่วโลกมานานหลายปีแล้ว’

มันเป็นการประเมินที่ยุติธรรมเพราะว่าชายจากวอร์ซอคนนี้ทำประตูให้สโมสรมากที่สุดจากการลงเล่นทุกรายการเหนือกว่านักเตะทุกคนใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ไม่ใช่แค่ในมิวนิคเท่านั้นที่ยืนยันความเก่งกาจของ เลวานดอฟสกี้ แม้แต่สตาร์ดังของ แมนฯซิตี้ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งเคยค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์กับ โวล์ฟสบวร์ก และ แวร์เดอร์ เบรเมน แสดงความเห็นส่วนตัวว่ากองหน้าทีมชาติโปแลนด์เหมาะสมกับรางวัล ‘บัลลง ดอร์’ มากกว่านักเตะคนอื่น

‘ถ้าผมต้องเลือกด้วยตัวเอง ผมจะดูระยะเวลา 2 ปี เพราะเราไม่มีใคร (ปีที่แล้ว)’ เดอ บรอยน์ กล่าว ‘ผมจะเลือก เลวานดอฟสกี้ สำหรับสิ่งที่เขาทำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การทำประตูอันชาญฉลาด และเขายังประสบความสำเร็จมากมายกับ บาเยิร์น ด้วย’

มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหลีกหนีจากความจริงที่ว่า เลวานดอฟสกี้ พลาดรางวัล ‘บัลลง ดอร์’ ในปี 2020 หลังการมอบรางวัลดังกล่าวถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ทั้งที่เขากวาดทุกแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค ทั้ง บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก, ดีเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ตบท้ายด้วย ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

รางวัล ‘บัลลง ดอร์’ ปี 2021 ควรจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งที่นักเตะทำได้ในปีที่แล้ว ดังนั้นการคว้ารางวัล ‘โกลเด้น บูต’ ในฐานะดาวซัลโวสโมสรยุโรปในซีซั่น 2020-2021, ทำ 41 ประตูจากการลงเล่นบุนเดสลีกา 29 เกม และทำลายสถิติของ มุลเลอร์ ที่คงกระพันมานาน 49 ปีหรือไม่?

หรือการเป็นผู้ทำประตูมากสุดเหนือกว่านักเตะทุกคนในลีกใหญ่ของยุโรปตลอดปีปฏิทิน 2021?

หรือการทำประตูมากกว่าทุกคนนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลนี้?

หรือการทำประตูมากที่สุดในโลกทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ?

หรือการทำประตูกับ บาเยิร์น มิวนิค 19 เกมติดต่อกันกลายเป็นสถิติของสโมสร?

หรือพูดมากกว่าการทำประตู จากชัยชนะเหนือ เบนฟิก้า 4-0 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ เลวานดอฟสกี้ เป็นนักเตะคนแรกที่คว้าชัยชนะ 19 เกมติดต่อกันในรายการนี้ เขายังพลาดการทำประตูเพียง 3 เกม หลังกระทุ้งรวมกัน 25 ประตู ซึ่งรวมถึง 3 ประตูในซีซั่นนี้ด้วย

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการลุ้นรางวัล ‘บัลลง ดอร์’ เลวานดอฟสกี้ ทราบดีว่ามันมีความหมายต่อเขาอย่างไร ‘มันเป็นความฝันที่ได้มาอยู่ที่นี่และพยายามคว้ารางวัลนี้ เพราะผมรู้ว่ามันยากแค่ไหน สำหรับคนที่ไม่ได้มาจากประเทศใหญ่ ผมหมายถึงประเทศฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ แต่ผมอยู่ที่นั่น’

แม้เขาจะประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง แต่ เลวานดอฟสกี้ ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนและมอบเครดิตให้เพื่อนร่วมทีมที่มีส่วนช่วยเขาไปได้ไกลจนถึงจุดนี้ ‘ผมมีโอกาสดีที่จะคว้ามัน และผมรู้สึกขอบคุณที่ผมสามารถขึ้นไปที่นั่นได้ ผมคิดว่านั่นเป็นฟอร์มการเล่นของผม ซึ่งรวมถึงปีใน 2020 ด้วย ทุกสิ่งที่เราทำ สิ่งที่ผมทำกับเพื่อนร่วมทีม เพียงพอแล้วที่จะคิดถึงเรื่องนี้’

การปราชัยบนเวทียุโรปครั้งเดียวในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาของ บาเยิร์น มิวนิค เกิดขึ้นเมื่อ เลวานดอฟสกี้ พลาดลงสนามเนื่องจากการบาดเจ็บ มันอธิบายด้วยตัวมันเองว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยมีข้อโต้แย้งว่าทีมเสือใต้จะสามารถหลีกเลี่ยงการปราชัยต่อ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในรอบควอเตอร์ไฟนัลของฤดูกาลที่ผ่านมาได้หากมีกองหน้าทีมชาติโปแลนด์ลงสนามและอดีตแชมป์ 6 สมัยจะมีโอกาสหลุดเข้าไปป้องกันตำแหน่งของพวกเขา

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ซึ่งเคยเป็นเจ้านายของ เลวานดอฟสกี้ ในช่วงปี 2010-2014 ตอนกุมบังเหียน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสคว้ารางวัล ‘บัลลง ดอร์’ ว่านักเตะจำเป็นต้องคว้าแชมป์รายการยิ่งใหญ่สุดในช่วงเวลานั้นเพื่อคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ

ตามความเห็นของ คล็อปป์ นั่นทำให้ จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีของ เชลซี และฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า ต่อจาก เลวานดอฟสกี้ เป็นตัวเต็งที่มีโอกาสคว้ารางวัล ‘บัลลง ดอร์’ ประจำปีนี้ จากการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกกับทีมสิงห์น้ำเงิน และแชมป์ยุโรปกับทัพอัซซูรี่

แต่ยังมีคนโต้เถียงว่า จอรจินโญ่ ไม่ใช่นักเตะดีที่สุดของ เชลซี หรือ อิตาลี ด้วยซ้ำ

ต่างจาก เลวานดอฟสกี้ ซึ่งเป็นนักเตะดีที่สุดสำหรับสโมสรและประเทศของเขา เขายังเป็นคนทำประตูสูงสุดของ โปแลนด์ หลังการกระทุ้ง 9 ประตูจากการลงเล่น 11 เกมในปีนี้ ซึ่งรวมถึง 3 ประตูในทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020 ด้วย

‘ผมรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไรที่ผมมาจากประเทศเล็กๆที่มีผู้เล่นระดับสูงสุดไม่มากนัก’ เลวานดอฟสกี้ กล่าวตอนที่เขารับรางวัลดาวซัลโวสโมสรยุโรป ‘คุณต้องทำงานหนักกว่านักเตะจากประเทศใหญ่ๆที่มีความสำเร็จระดับชาติมากกว่า’

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากประวัติศาสตร์ มันเป็นเรื่องยากสำหรับนักเตะที่อยู่นอกเหนือมหาอำนาจลูกหนังในยุโรปหรืออเมริกาใต้ที่จะคว้ารางวัล ‘บัลลง ดอร์’ โดยมีเฉพาะ จอร์จ เวอาห์ ตำนานลูกหนังไลบีเรียนเท่านั้นที่คว้ารางวัลนี้ในปี 1995 ที่ไม่ได้มาจากทวีปใดทวีปหนึ่ง

ขณะที่ ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชียเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถฝ่าด่าน ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคที่สลับกันคว้ารางวัล ‘บัลลง ดอร์’ ตั้งแต่ปี 2008 ก่อนแข้งชาวโครแอตจะคว้ารางวัลอันทรงเกียรติในปี 2018

หากปราศจากทั้ง เมสซี่ และ โรนัลโด้, คงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆเกี่ยวกับ เลวานดอฟสกี้ ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท้ายที่สุดเขาก็ได้รับการยอมรับในเดือนธันวาคมปีที่แล้วเมื่อก้าวขึ้นคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ฟีฟ่า แต่หัวหอกชาวโปลยังรู้สึกว่าอีกหนึ่งรางวัลที่เขาสมควรได้รับคือ ‘บัลลง ดอร์’

‘รางวัล บัลลง ดอร์ ครั้งล่าสุดถูกยกเลิก และเรามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เรายังคงคิดอยู่ว่าทำไม’ กองหน้าวัย 33 ปี กล่าว

ส่วนความฝันของ เลวานดอฟสกี้ จะกลายเป็นจริงหรือไม่ เราจะทราบคำตอบกันในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้

คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล